“อยากอยู่กับเธอทั้งคืน” เพลง Soul แนว Sexy กับเสียงร้องออดอ้อน จาก “ดา เอ็นโดรฟิน”

“อยากอยู่กับเธอทั้งคืน” Single ใหม่ล่าสุดต้อนรับวาเลนไทน์ จาก “ดา เอ็นโดรฟิน” เป็นเพลงที่ดาตั้งใจอยากให้คนฟังได้อินไปกับเพลงในเทศกาลแห่งความรักนี้ โดยเพลงนี้เป็นเพลงของวงซีเปีย เมื่อปี 2543 ที่ดาชอบ และอยากนำกลับมาร้องและทำใหม่ จากที่ดาเคยร่วมงานกับ "พี่โอ๋ ซีเปีย" มาตั้งแต่ ม.3 และคิดมาตลอดว่าสักวันเมื่อมีโอกาสอยากได้ร่วมงานกับพี่โอ๋ ซีเปียอีกครั้ง จนถึงโอกาสพิเศษนี้

“อยากอยู่กับเธอทั้งคืน” ในเวอร์ชั่นนี้ เรียกได้ว่าเป็นเวอร์ชั่นที่มีความ Sexy อยู่ในเพลงด้วยความตั้งใจ ทั้งการร้องและดนตรี ด้วยความที่ดาชื่นชอบในแนวเพลงของคนผิวดำเป็นพิเศษ ทำให้ “อยากอยู่กับเธอทั้งคืน” ของปี 2558 เป็นเวอร์ชั่น Neo Soul ซึ่งเป็นเพลง Soul ยุคใหม่ ที่มีวิธีการเล่นแตกต่างไปจากเดิมพอสมควรพร้อมมีคอร์ดแปลกๆในเพลงหลากหลาย และความพิเศษของเพลงนี้คือ Music Video จะทำออกมาในรูปแบบของ Live Session ที่เป็นการอัดสดทั้งหมด เป็นรูปแบบ Live Band ที่มาแจมกัน ซึ่งทั้งดากับวงซีเปีย ต่างก็พูดตรงกันว่าเป็นการทำงานที่สนุกและประทับใจมาก

ติดตามฟังเพลง “อยากอยู่กับเธอทั้งคืน” จาก “ดา เอ็นโดรฟิน” ได้แล้ววันนี้ ทุกคลื่นวิทยุทั่วประเทศ Digital Download กด *1231986 และทาง iTunes / KKBOX ติดตามอัพเดทข่าวคราวของได้ที่ www.facebook.com/whitemusicrecord /  IG@whitemusicrecord / IG@daendorphine

“โตโน่” อ้อนสาว ชวนมา “นับดาวด้วยกันไหม”

“Tono & The Dust” วงร็อคฝีมือดีภายใต้สังกัดอัพจี ที่นำทีมโดย “โตโน่ ภาคิน” หลังจากมีผลงานที่ผ่านมาหลายซิงเกิล จนวันเป็นที่รู้จักกันไปแล้วกับวงร็อควงนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพลง “บ้าคิดถึง” เพลงเปิดตัวของพวกเขาในปี 2556 ที่แจ้งเกิดโตโน่ในฐานะวงร็อคหน้าใหม่ ตามมาด้วยเพลง “อยากเป็นคนที่ทำให้เธอรู้สึกดี” เพลงประกอบละคร “ฟ้ากระจ่างดาว” ที่ฟังแล้วทำให้รู้สึกดี และเพลงเพราะช้า ซึ้ง กับเพลง “จะหยุดเวลาได้ไหม” ที่ทำให้ “Tono & The Dust” กลายเป็นวงร็อคที่น่าจับตามอง พวกเขายังคงเดินทางหาประสบการณ์ทางดนตรีด้วยการเล่นคอนเสิร์ตตามต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อฝึกความสามารถในการเล่นดนตรี และเตรียมตัวซุ่มซ้อมและทำซิงเกิลใหม่เพื่อต้อนรับปี 2558 

วันนี้ พวกเขามีซิงเกิลใหม่ออกมาให้พร้อมฟังกันแล้ว กับเพลง “นับดาวด้วยกันไหม” เพลงช้าที่มาพร้อมกับเนื้อหาโรแมนติคเหมาะกับยุคสมัยตอนนี้ ฟังสบายมีคำที่ไพเราะน่าจดจำ กับท่อนฮุคที่ติดปากอยากร้องตาม “จะดึกเกินไปไหม จะชวนมานอนนับดาวด้วยกัน ตัวฉันจะยอมเป็นหมอนข้างให้เธอกอด อยากกอดกันยันเช้า ก็มันหนาว ต้องการความอบอุ่นหัวใจ จะพูดคำนั้น ใกล้ๆหู...ว่ารักเธอ” โดย "โตโน่" เผยความรู้สึกถึง Single ใหม่ให้ฟังว่า

“..ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า ช่วงเวลาที่ห่างหายไป พวกเราก็ยังทำเพลงเหมือนเดิม และยังมีโอกาสได้ไปฝึกฝีมือการเล่นดนตรีกับคอนเสิร์ตตามต่างจังหวัดอีกด้วย สนุกมากครับ พวกเรายังสู้เหมือนเดิมบนถนนสายดนตรี ผมดีใจมากที่พี่ๆทีมงานอัพจีได้ให้โอกาสผมและเพื่อนๆ ในวง The dust ได้มีส่วนร่วมในการทำงาน ได้มีการเสนอไอเดีย ทำให้พวกเราได้รู้ว่า การที่จะมีงานเพลง ดีๆสักเพลงนั้นไม่ง่ายเลย ต้องอาศัยความสามารถ ความใส่ใจ และความเป็นทีมเวิร์คจนได้เพลงดีๆอย่างเพลง “นับดาวด้วยกันไหม” ออกมา ซึ่งเพลงนี้ได้ “พี่ต่อ แสนคม สมคิด” มาเขียนเนื้อร้องให้ และได้ “พี่เพชร พงศภัค ทองเจริญ” อดีตสมาชิกวงกะลา มาแต่งทำนองและเรียบเรียงให้จนเสร็จสมบูรณ์ รับรองว่าถูกใจแฟนเพลงครับ พวกเรารู้สึกตื่นเต้นกันมากครับ ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ที่พวกเรานำมามอบให้กับแฟนเพลงในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และก็ต้องขอขอบคุณแฟนเพลงทุกๆคนที่ยังสนับสนุนพวกผมกันต่อไป ไม่ทิ้งกันไป  ขอบคุณครับ”

5 กพ. เตรียมฟังเพลง “นับดาวด้วยกันไหม” พร้อมกัน ทุกคลื่นวิทยุทั่วประเทศ Didital Download กด *1234666 แล้วโทรออก พร้อมติดตามอัพเดทความเคลื่อนไหวของ “Tono & The Dust” ได้ที่ www.facebook.com/UPGband หรือ www.facebook.com/ToONOandTheDUST และ Twitter / Instagram : @UPGband

“เบิร์ด” ชวนบอกรัก ต้อนรับเดือนแห่งความรัก

เนื่องในเดือนกุมพาพันธ์ เป็นเดือนเทศกาลแห่งความรัก “เบิร์ด ธงไชย” ชวนเชิญทุกๆท่าน เขียนไปรษณีย์ บอกรัก บอกความรู้สึกดีๆ ถึงศิลปิน GMM GRAMMY ที่ทุกคนชื่นชอบ ลงในโปสการ์ดแบบไหนก็ได้ และส่งมาที่ 50 GMM Grammy Place ชั้น 31 White Music สุขุมวิท 21 (อโศก) เขตวัฒนา แขวงคลองเตยเหนือ กทม. 10110

อย่าลืมถ่ายรูปโปสการ์ด และโพสลงในหน้ากิจกรรม Fanpage White Music หรือใน IG @Whitemusicrecord พร้อมบรรยายใต้ภาพว่าเขียนถึงศิลปินคนโปรดเพราะอะไร และติดแฮชแท็ก #loveseriespostcard #Whitemusicrecord  ลุ้นของรางวัล “โปสการ์ด ชุด Love Series” พร้อมลายเซ็นต์จาก “เบิร์ด ธงไชย” จำนวน 5 รางวัล

เริ่มตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558
ประกาศผล : ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558
ของรางวัลจัดส่งทางไปรษณีย์
**การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

และเตรียมพบกับ คอนเสิร์ต “ขนนกกับดอกไม้ THE ORIGINAL RETURNS” เสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 (รอบ 19.30 น.) และอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2558 (รอบ 15.00 น. / 19.30 น.) แสดงที่ อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี จองบัตรได้แล้ววันนี้ ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา

“บอย PEACEMAKER” ส่ง Single ใหม่ “ไว้อาลัย” เผยความรู้สึกของคนถูกทิ้ง ไม่ต่างอะไรจากการตายจาก 

หลังส่ง Single แรก “ลอง” เพลงจังหวะสนุกๆ เปิดตัวอัลบั้มใหม่ Moving On ของเจ้าพ่อเพลงฮิต “บอย PeaceMaker” หรือ “อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี” ที่เพลงนี้เจ้าตัวเขียนเนื้อร้องเอง โดยมีเนื้อหาแนะคนโสดให้มีคู่ จนเพลงฮิตโดนใจแฟนเพลงไปเรียบร้อย

ล่าสุดกับเพลง “ไว้อาลัย” (คำร้อง-ทำนอง : ธนพล กิ้วลาดแยง / เรียบเรียง : ศุภวิญญ์ มุ่งมาตร / Executive Producer : กฤช กฤษณาวารินทร์) ซิงเกิ้ลใหม่สุดแรงจาก “บอย PeaceMaker” ที่มาพร้อมกับกระแสปากต่อปาก ถึงชื่อเพลงและอารมณ์ที่สุดสะเทือนใจ กับเรื่องราวความรักของคนสองคน ที่คนหนึ่งหมดรักแต่อีกคนยังคงรักไม่เปลี่ยนแปลง ความเจ็บปวดของคนที่รอวันถูกทิ้งมันช่างทรมาน และนี่คือที่มาของเพลงสุดเจ็บเพลงนี้ โดยเนื้อเพลงจะพูดถึงความรู้สึกของคนๆ หนึ่ง ที่อยากบอกกับคนที่เรารักในวันที่เขาไม่ได้รักเราแล้วว่า จะจากกันทั้งทีถ้าเธอยังมีน้ำใจ กอดฉันสักหน่อย จูบฉันสักครั้ง ได้มั้ย เพราะถ้าไม่มีเธอแล้วฉันอาจตายได้ ฉะนั้นเธอจะไม่คิดไว้อาลัยกันหน่อยหรือ ซึ่งคำว่า “ไว้อาลัย” เราแทบจะไม่ได้ยินคำนี้ในเพลงที่ไหนเลย เพราะคำนี้ หมายถึงการทำอะไรดีๆ ให้กับคนตายเป็นครั้งสุดท้าย ก็เหมือนกับความรู้สึกของคนที่ถูกทิ้ง ที่ไม่ต่างอะไรจากคนตาย และสิ่งที่อยากขอกัน ก็คือการทำดีให้กันเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งถือว่าเป็นการเอาคำมาเปรียบกับความรู้สึกในเพลงได้อย่างแนบเนียนและน่าทึ่ง นอกจากเนื้อหาที่คม เจ็บปวด และบาดลึกแล้ว ในภาคของดนตรีที่ไม่หนักจนเกินไปแต่ก็ติดหูง่าย ทำให้เพลงนี้ถูกอกถูกใจแฟนๆไปตามๆ กัน และที่ต้องกดไลค์ให้แรงๆ คือประโยคสุดเจ็บท่อนท้ายเพลงที่ว่า “..ขาดเธอวันพรุ่งนี้ฉันมีสิทธิ์ตาย ไม่ไว้อาลัยหน่อยหรือ...”

ติดตามฟัง Single ใหม่ เพลง “ไว้อาลัย” จาก “บอย PeaceMaker” 5 กพ.นี้ ทุกคลื่นวิทยุทั่วประเทศ Digital Download กด *1230029 แล้วโทรออก ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/werkgang Twitter / Instagram : Werkgang  www.youtube.com/werkgang  และ  www.facebook.com/boypmfc  Instagram : @Boypeace Twitter : @ Boypeacemaker

“ระหว่างเราสองคน” เพลงรัก ของทุกคู่รัก จาก “เอ๊ะ จิรากร”

เริ่มต้นจากความอบอุ่น สู่ความรู้สึกที่ไม่ชัดเจน “เอ๊ะ จิรากร สมพิทักษ์” นักร้องเสียงคุณภาพ เจ้าของบทเพลงรักมากมายสไตล์อบอุ่น จนเหล่าคนฟังต่างขนานนามและยกย่องให้เป้นซิกเนเจอร์ประจำตัวด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง

วันนี้  “เอ๊ะ จิรากร”  อยากลุกขึ้นมาลองในสิ่งที่ไม่เคยทำ จึงเป็นที่มาของซิงเกิลล่าสุด “ระหว่างเราสองคน” สะท้อนอีกแง่มุมหนึ่งของความรักที่ “ฟองเบียร์” แต่งขึ้นและให้คำจำกัดความของเพลงนี้ว่าเป็นเพลงของคนที่รอคำตอบ ในปัจจุบันรอบตัวเรารายล้อมไปด้วยความสับสน วุ่นวาย ความไม่เคลีย์ของชีวิต ไม่สามารถรู้ได้ว่าสุดท้ายแล้วความสัมพันธ์นี้จะออกหัวหรือออกก้อย ฉะนั้นแล้วเพลงนี้คือความใกล้เคียงชีวิตของคนปัจจุบัน

จากเพลงของคู่รัก สู่เพลงของคนที่รอคำตอบ แม้ในครั้งนี้ จะได้รับโจทย์ที่หินจนทำจนทำให้เจ้าพ่อเพลงรักอย่าง “เอ๊ะ จิรากร” ไม่สามารถพูดภาษารักได้เต็มปาก อย่างเคยแต่เขาก็ยังคงถ่ายทอดเพลงนี้ผ่านเสียงโทนอบอุ่น แฝงห้วงอารมณ์ของความไม่ชัดเจน ออกมาอย่างแผ่วเบาและลงตัว สามารถสะกดคนฟังให้ตกอยู่ในภวังค์ได้อีกครั้งอย่างเคย

ติดตามฟังเพลง “ระหว่างเราสองคน” จาก “เอ๊ะ จิรากร” ได้แล้ววันนี้ ทุกคลื่นวิทยุทั่วประเทศ Digital Download กด *1234888 แล้วโทรออก

“เป็ก ZEAL – หนูนา หนึ่งธิดา” 2 ความต่าง ที่ถ่ายทอดเพลงรักได้อย่างลงตัว

“เงาในหัวใจ” เพลงประกอบละครน้ำดีที่ถูกนำมารีเมคอีกครั้งอย่างเรื่อง “เงาใจ” ผลงานแรกของผู้จัดสาวอย่าง “อ้อม พิยะดา” ออกอากาศทางช่องทีวีดิจิตอลช่อง ONE HD (วัน เอชดี)  ที่นับเป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกของสุดขั้วความต่างทางดนตรีระหว่าง “เป๊กซ์-ปราชญ์ พงษ์ไชย” นักร้องนำวง ZEAL (ซีล) วงร็อคแถวหน้าของเมืองไทย และ “หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ” นักร้อง นักแสดงมากฝีมือที่มาพร้อมกับเสียงร้องหวานใสด้วยสไตล์ทางดนตรีเฉพาะตัวของทั้งคู่ ที่ใครๆต่างก็ไม่คาดคิดว่าจะร่วมทางกันได้ แต่งานนี้ทั้งสองกลับสร้างความแตกต่างได้อย่างลงตัว ประกอบกับได้ส่วนผสมชั้นดีอย่างเนื้อร้องจากปลายปากกาของ “ฟองเบียร์” เข้ามาช่วยเสริมทัพ ยิ่งทำให้ทั้งสองสามารถตอบทุกคำถามผ่านเสียงร้อง ถ้วงทำนองของดนตรี ส่งเพลงนี้เข้าถึงอารมณ์คนฟังได้อย่างไม่ยาก

และเพลงนี้ยังได้โปรดิวเซอร์มือฉมังอย่าง “ต้น สุวัชชัย สุทธิรัตน์” หรือที่รู้จักกันในวงการว่า “ต้น บลูด๊อก” ที่ถึงแม้เพลงนี้จะเป็นเพลงช้าแต่ก็ยังคงกลิ่นอายของความเป็นร็อคผ่านซาวน์ในพาร์ทของดนตรีเบื้องหลังที่สมาชิกวง ZEAL ต่างก็ออกลวดลายและทำออกมาได้อย่างมีชั้นเชิง ลื่นหู ทั้งยังมีการสอดแทรกลายประสานเสียงระหว่าง “เป๊กซ์” และ “หนูนา” ในแบบที่เรียกว่าหนุ่มเป๊กซ์ต้องทำการบ้านกันอย่างหนักที่เดียวกับสไตล์เพลงที่เปลี่ยนไป ทั้งการลดทอนเสียง ความหนักเบา แต่สุดท้ายแล้วผลงานที่ออกมาได้ดี พร้อมผสมผสานกัยเสียงร้องหวานใสของหนูนาได้อย่างลงตัว

ความพิเศษอีกอย่างนึงคือ มิวสิควิดีโอเพลงนี้ ยังได้คู่พระ-นาง ของเรื่องอย่าง “ตูมตาม ยุทธนา” และนางเอกสาวหน้าหวาน “วิว วรรณรท” ร่วมถ่ายทอดความรักผ่านการแสดงอีกทอดหนึ่ง ที่เรียกได้ว่าทำออกมาได้อย่างครบรสชาติ ทั้งความเจ็บปวด เสียใจ การรอคอย จนไปถึงฉากสวีทหวานหยดย้อย จนคนในกองอินไปตามๆกันเลยทีเดียว

ติดตามฟังเพลง “เงาในหัวใจ” จาก “เป็ก ZEAL & หนูนา หนึ่งธิดา” ได้แล้ววันนี้ ทุกคลื่นวิทยุทั่วประเทศ Digital Download กด *1230016 แล้วโทรออก

“คิว สุระ” ร่วมงาน Mr.Lazy เผยงานเพลงใหม่ ท้าทาย กับสไตล์ที่ตัวเองไม่เคยร้อง

จากความสำเร็จของ Single “เพิ่งจะรู้” feat.แพรว คณิตกุล, “ดีอย่างไร” feat.ที jetset’er, “คิดถึงนะ” feat.แพรว คณิตกุล, “มันคือความรัก” feat. ลุลา จนมาถึงซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด “เพิ่งรู้ตัว” เพลงสุดเพราะที่ Mr.Lazy หรือ “กฤช กฤษณาวารินทร์” โปรดิวซ์เพลงนี้ด้วยตัวเองเหมือนเช่นเคย และศิลปินที่เลือกมา feat. เพลงนี้ ก็ไปลงตัวที่ “คิว สุวีระ” หรือ “คิว วงฟลัว” นักร้องหนุ่มเจ้าของเสียงทรงพลังเต็มไปด้วยเอกลักษณ์และร้องเพลงได้เพราะที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย

โดยทันทีที่ “คิว” ได้รับการติดต่อจาก “พี่กฤช” คิวก็ตอบตกลงทันทีเพราะเป็นสไตล์เพลงที่ตัวเองไม่เคยร้องมาก่อน เพราะส่วนใหญ่ที่ผ่านมาเพลงของคิวที่หลายคนรู้จัก จะเป็นสไตล์เพลงแบบหนักๆ และเพลงนี้ก็เลยถือเป็นความท้าทายที่ตัวเองก็อยากทำมานาน ซึ่งการทำงานของทั้งคู่ก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน โดยคิวก็มีส่วนร่วมในการคิดและดีไซน์ในเรื่องของวิธีการร้อง ฝั่งพี่กฤชเองก็บรีฟอารมณ์เพลงนี้ให้ฟังว่าอยากได้ประมาณไหน

โดยเนื้อเพลงจะพูดถึงคนที่เพิ่งจะรู้ใจตัวเองว่ารักใคร ซึ่งวันที่เข้าห้องอัดพี่กฤชถึงกับเอ่ยปากว่าถ้าไม่ได้คิวมาร้องเพลงนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะลงตัวได้ขนาดนี้หรือเปล่า ด้วยวิธีการร้องที่หนักแน่นแต่ว่านุ่มนวล ซึ่งคิวทำออกมาได้ดีมาก และเชื่อว่าถ้าทุกคนได้ฟังเพลงนี้ ก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เพลงนี้เป็นเพลงที่คิวร้องได้ดีและเพราะเหลือเกิน

ติดตามฟังเพลง “เพิ่งรู้ตัว” feat.คิว สุระ ได้แล้ววันนี้ ทุกคลื่นวิทยุทั่วประเทศ

การเดินทางครั้งใหม่ของ “ศรัญ แอนนิ่ง” เพื่อตามหาและพิสูจน์ว่า “รักแท้มีอยู่จริง” 

“ศรัญ แอนนิ่ง” ศิลปินหนุ่มหน้าใหม่ ค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ที่เราได้รู้จักเขาครั้งแรกผ่านเรียลลิตี้ เส้นทางกว่าจะเป็นศิลปิน จนมีผลงานซิงเกิลแรก “มองแต่ไม่เห็น ฟังแต่ไม่ได้ยิน” ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดี เข้าสู่ Top Chart ของหลายคลื่นวิทยุ และมียอดวิวในยูทูปพุ่งสูงเกือบ 15 ล้านวิว นอกจากนี้ยังมีดีกรีเป็นถึงหนุ่มคลีโอ The Most Heart-Stopping Bachelor ปี 2014 และ พรีเซนเตอร์ของมอเตอไซต์ยามาฮาอีกด้วย

นับเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยเสียงร้องที่มีเสน่ห์ และความทุ่มเทในการทำงานกับทีมโปรดิวเซอร์เลือดใหม่ที่แสนเข้มงวด คชภัค ผลธนโชติ (พล), สุกฤษณ์ ศรีเปารยะ (สุ่ม) และ อนันต์ ดาบเพ็ชรธิกรณ์ (ยักษ์) อดีตสมาชิกวงร็อคระดับตำนาน “Clash” พิสูจน์และพัฒนาจนสามารถเดินทางมาถึง ซิงเกิ้ลที่ 2 “เพลงรักแท้มีอยู่จริง” (คำร้อง เหมือนเพชร อำมะระ / ทำนอง ศุภวัฒน์ เพ็ชรบุรี / เรียบเรียง สุกฤษ ศรีเปารยะ / พงศกร ลีลิมปเจริญสกุล) “ยังคงเชื่อว่ารักแท้มีอยู่จริง ยังเชื่อว่าคนนั้นอยู่ที่ไหนแค่ซักแห่ง ทุกความรู้สึก ทุกลมหายใจที่เฝ้าคอย ต้องการจะมอบให้ใคร ...ที่เรียกว่ารักแท้” กับเนื้อหาและมุมมองจากความรู้สึกจริงของ “ศรัญ แอนนิ่ง” ที่ถ่ายทอดลงในซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดของเขา สำหรับคนที่ผิดหวังมา ศรัญอยากจะบอกว่ามันยังไม่จบแค่นี้ ยังมีอะไรที่รอเราอยู่  ในด้านดนตรี เพลงนี้มีกลิ่นของร็อคที่มากขึ้นกว่าเพลงแรกของศรัญ  และเพลงนี้ ยังได้นำไปประกอบอยู่ในละคร เรื่อง “คาดเชือก” ทาง ช่อง 7 อีกด้วย

ติดตามฟังเพลง “รักแท้มีอยู่จริง” จาก “ศรัญ แอนนิ่ง” ได้แล้ววันนี้ ทุกคลื่นวิทยุทั่วประเทศ Digital Download กด *1234312 แล้วโทรออก พร้อมอัพเดทความเคลื่อนไหวของได้ที่ www.facebook.com/sarananning  / IG @saranzzz       

ชมมิวสิควีดีโอ “รักแท้มีอยู่จริง” (Lyric Video)

สำหรับละครเรื่อง “คาดเชือก” เป็นเรื่องราวของการสู้แย่งชิงและการรักษาความยุติธรรมเอาไว้ในอำเภอโพธิ์ทอง สถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องหมัดมวย นำแสดงโดย “มิกค์ ทองระย้า” รับบทเป็น “บุญสม” อดีตนักมวยคาดเชือกที่ติดคุกเพราะต่อยคนตาย แต่เมื่อพ้นโทษออกมาก็กลับใจ และต้องพิสูจน์ตัวเองให้ชาวบ้านยอมรับ ร่วมด้วย “เคลลี่ ธนะพัฒน์” เป็น “ปลัดธนู” ตำรวจที่คอยให้ความช่วยเหลือบุญสม และเป็นคนรักของ “ละไม” รับบทโดย “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ” หญิงผู้เกลียดขี้หน้าบุญสม ในขณะเดียวกันก็เป็นพี่สาวของ “ละเมียน” น้องสาวผู้น่ารักอ่อนโยน ซึ่งรับบทโดย “เมลดา สุศรี” พร้อมนักแสดงสมทบอีกคับคั่ง ออกอากาศทางช่อง 7 สี ทุกวันพุธ-พฤหัส เวลา 20.30 น. เริ่มตอนแรก 29 มกราคมนี้

“So Cool” ส่ง Single ใหม่ “สมองสั่งให้ลืม หัวใจสั่งให้จำ” ตอกย้ำ! ถ้าคิดจะลืมใครสักคน ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าหัวใจสั่งให้จำ

“ก็ในสมองมันสั่งให้ลืมเธอไป แต่หัวใจยังบังคับให้จดให้จำ ยิ่งอยากลบเท่าไหร่ ยิ่งคิดถึงเท่านั้น”

“สมองสั่งให้ลืม หัวใจสั่งให้จำ” ซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดจาก So Cool ต้อนรับปี 2015 ที่น่าจะโดนใจใครหลายๆ คน ที่ยังคงนึกถึงแฟนเก่า แม้ว่าจะสั่งให้ตัวเองพยายามตัดใจแค่ไหน แต่ในหัวใจลึกๆ ก็ยังไม่สามารถลืมคนรักเก่านั้นได้ ซึ่งเพลงนี้ได้โปรดิวเซอร์คู่ใจอย่าง “โจ-เหมือนเพชร อำมะระ” มาช่วยเขียนเนื้อร้อง และทำนอง ในส่วนของมิวสิควิดีโอ ได้ “ปาล์ม-ศุภชัย สุวรรณอ่อน” (นักแสดงจากซีรี่ย์ The Rising Sun รอยฝันตะวันเดือด) รับบทถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของคนรักที่ต้องพยายามตัดใจจากการเลิกลา และต้องเจ็บปวดยิ่งกว่า เมื่อท้ายที่สุดแล้ว ตนได้ค้นพบถึงสาเหตุของการบอกเลิกจากคนรักเก่า โดยมิวสิควิดีโอเพลงนี้ ได้ผู้กำกับมือดีอย่าง “เป้า-บรรจง แสงวิสุทธิ์ใส” ที่เคยร่วมงานมิวสิควิดีโอเพลง “สิ่งมีชีวิตที่คิดได้และเจ็บเป็น” จนมียอดวิวถึง 30 ล้านวิว กลับมากำกับให้อีกครั้ง

29 มกราคม ทั้งฟัง ทั้งชมมิวสิควีดีโอเพลง “สมองสั่งให้ลืม หัวใจสั่งให้จำ” ได้แล้ว ทุกคลื่นวิทยุทั่วประเทศ และทางช่อง GMM Channel, ช่องแฟนทีวี, YouTube และทุกรายการเพลงของแกรมมี่  Digital Download กด *1230061 แล้วโทรออก ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ So Cool ได้ที่ www.facebook.com/socoolband / www.facebook.com/CroissongGMM 

ชมมิวสิควีดีโอเพลง “สมองสั่งให้ลืม หัวใจสั่งให้จำ”

“เสพติดความเจ็บปวด” ความสุขของคนชอบเจ็บปวด จาก THE YERS

“เสพติดความเจ็บปวด” ซิงเกิ้ลลำดับที่ 2 จาก THE YERS วงร็อกที่มีแนวทางดนตรีและการนำเสนอ เนื้อหาที่ชัดเจนในแบบของตนเอง เนื้อหาเพลงที่พูดถึงความเจ็บปวด ถูกถ่ายทอดผ่านดนตรีในสไตล์อินดี้ร็อกที่มีส่วนผสมของบีทแบบฮิปฮอป เพิ่มเติมด้วยเสียงเครื่องดนตรี percussion และเรียบเรียงออกมาเป็นดนตรีในรูปแบบ THE YERS

“ผมเป็นคนเสพติดความเจ็บปวด” ประโยคหนึ่งที่เกิดขึ้นมาจากการนั่งสนทนากันระหว่าง “อู๋” (นักร้องนำ) และอาจารย์สอนแต่งเพลงของเขา ทันทีที่อู๋ได้ยินประโยคนี้จากอาจารย์ เขารู้สึกทันทีว่านั่นคืออาการที่เกิดขึ้นกับเขาอยู่ตลอด ในทุกๆครั้งที่เสียใจ เขามักจะเก็บอาการเสียใจนั้นไว้ให้นานที่สุดและมีความสุขกับการเสียใจอยู่คนเดียวเสมอ

ติดตามฟังเพลง “เสพติดความเจ็บปวด” ซิงเกิ้ลลำดับที่ 2 จาก THE YERS ได้แล้ววันนี้ ทุกคลื่นวิทยุทั่วประเทศ Digital Download กด *1230085 แล้วโทรออก และทาง KK BOX / iTunes Store สามารถติดตามข่าวสารและพูดคุยกับ THE YERS เพิ่มเติมได้ทาง www.genie-records.com / www.facebook.com/theyerstheyers

ชมมิวสิควีดีโอ “เสพติดความเจ็บปวด” 

About THE YERS

สมาชิก
อู๋ - ยศทร บุญญธนาภิวัฒน์  (กีต้าร์ ร้อง)
เต๋า - ธนา กุสุมภ์  (คีย์บอร์ด เพอคัสชั่น ร้อง)
บูม - ถิรรัฐ ภู่ม่วง (กลอง )
โบ๊ท - นิธิศ วารายานนท์ (เบส)
ต่อ - พนิต มนทการติวงค์  (กีต้าร์ ร้อง)

THE YERS เริ่มขึ้นโดยใช้ดนตรีเป็นสื่อกลางในการเชื่อมมิตรภาพความเป็นเพื่อนให้เป็น พลังขับเคลื่อนงานเพลง เริ่มจากอู๋  (นักร้องนำ\กีต้าร์) ดำเนินรอยตามพี่ชาย บู้ วงเสลอ เดินทางหาฝันโดยเริ่มด้วยการเป็นมือกลองให้วงดนตรีหลายๆวง แต่เพื่อเติมเต็มความฝันในเส้นทางวงการดนตรี  อู๋ หันมาคว้าไมค์เป็นนักร้องนำเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองเป็นครั้งแรก พร้อมแนวดนตรี punk ที่เขารัก เมื่อดนตรีที่ชอบกับการรวมตัวของเพื่อนที่มีเส้นทางฝันเดียวกันทำให้ดนตรี ที่ออกมา เข้มข้น สนุกสนาน บวกกับไลน์กีต้าร์ที่เรียบง่ายแต่บาดใจของ ต่อ ลีลาเท่ห์ๆ สุขุมของโบ๊ท มือเบส พร้อมทั้งความสนุก ดุเดือด ทุกจังหวะกลองของบูม และสมาชิกที่บ้าดีเดือดที่สุดอย่างเต๋า ใส่ลีลาระห่ำทุกครั้งเมื่อสัมผัส คีย์บอร์ด และ เพอคัสชั่น พวกเขาทั้ง 5 เป็นความลงตัว สุขุม เท่ห์ มันส์ สนุก สะใจ ใน The Yers(เดอะเยอร์ส)

ผลงานที่ผ่านมา

- เพลง “การสื่อสาร” (2552) เป็นเพลงแรกของ THE YERS ในโปรเจคพิเศษ อัลบั้ม Smallroom 007 : Boutique (สมอลล์รูม 007: บูติค)
- อัลบั้ม Y (2554) เพลง เทศกาล / ระหว่างขับรถ /Dance in the dark / เต้นรำครั้งสุดท้าย / คืนที่ปวดร้าว / พูด
- เพลง “คืนที่ฟ้าสว่าง” (2557)
- เพลง “เสพติดความเจ็บปวด” (2558)